Back to Blog
Influencer Marketing

5 แบรนด์ไทยที่ใช้ Micro-Influencer แล้วปัง

10 min read
Hypelive Research Team

Hypelive Research Team

Research & Analysis

5 แบรนด์ไทยที่ใช้ Micro-Influencer แล้วปัง

ทำไมต้อง Micro-Influencer? งบน้อยแต่ได้ผลเยอะกว่า!

ถ้าคุณคิดว่าต้องมีงบหลักล้านถึงจะทำ Influencer Marketing ได้ หรือต้องจ้างดาราชื่อดังเท่านั้น เราขอบอกว่า... คุณคิดผิดแล้ว! ในปี 2025 แบรนด์ไทยหลายร้อยแบรนด์กำลังพิสูจน์ว่า Micro-Influencer (ผู้มีอิทธิพลขนาดเล็ก)สามารถสร้าง ROI ที่สูงกว่าดารา Mega-Influencer ได้ถึง 300%!

92%

ของคนไทยเชื่อคำแนะนำจาก Influencer มากกว่าโฆษณาทั่วไป

4.2%

Engagement Rate ของ Micro-Influencer vs Macro ที่ได้แค่ 2.7%

76%

ของผู้ติดตามซื้อสินค้าตามคำแนะนำของ Micro-Influencer

ข้อมูลจาก Kommune Agency และ Starngage เผยว่า แบรนด์ไทยที่ใช้กลยุทธ์ Micro-Influencer ในปี 2024-2025 ได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมาก ทั้ง ROI ที่สูงกว่า ความน่าเชื่อถือที่ดีกว่า และที่สำคัญ... งบประมาณที่ต่ำกว่ามาก!

(ข้อมูลจาก Kommune Agency)[Kommune Agency]
Thai micro-influencer creating content: Success stories from Srichand, NARAH, and GetFresh brand collaborations showing 406% ROI

Micro-Influencer: พลังเล็กๆ ที่สร้างผลลัพธ์ใหญ่

5 แบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จด้วย Micro-Influencer

มาดูกันว่าแบรนด์ไทยชั้นนำทำอย่างไรให้ Micro-Influencer กลายเป็นกลยุทธ์หลักที่ขับเคลื่อนยอดขาย!

1. Srichand: พลังของ Nano-Creator 35 คน

กลยุทธ์: แทนที่จะจ้าง Mega-Influencer 1-2 คน Srichand เลือกทำงานกับ 35 Nano-Creators (follower 1,000-10,000 คน) ที่มีผู้ติดตามสนใจเรื่องความงาม

ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง:

  • User-Generated Content (UGC) เพิ่มขึ้น 215%
  • Engagement Rate เฉลี่ย 5.8% (สูงกว่า Macro-Influencer 2 เท่า)
  • ความน่าเชื่อถือของแบรนด์เพิ่มขึ้นในกลุ่ม Gen Z

💡 ความลับ: Srichand ให้อิสระ Creators ในการสร้างคอนเทนต์แบบ authentic ไม่บังคับใช้สคริปต์ ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกว่าเป็นคำแนะนำจริงจากคนที่พวกเขาไว้ใจ

2. NARAH: Local Micro-Influencer ภาคเหนือ

กลยุทธ์: แบรนด์แฟชั่นไทย NARAH ต้องการเข้าถึงตลาดภาคเหนือ พวกเขาจับมือกับ Micro-Influencer ท้องถิ่น ที่มีฐานแฟนคลับแน่นแฟ้นในพื้นที่

ผลลัพธ์ที่วัดได้:

  • ยอดขายในภาคเหนือเพิ่ม 47% ภายใน 3 เดือน
  • Brand Awareness ในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 82%
  • ค่าใช้จ่ายต่อการแปลง (CPA) ลดลง 34%

💡 ความลับ: การใช้ Influencer ท้องถิ่นที่พูดภาษาเดียวกับกลุ่มเป้าหมาย (ทั้งภาษาไทยและวัฒนธรรม) ทำให้ข้อความถึงใจผู้บริโภคมากกว่าดาราระดับชาติ

3. Mistine: Co-Creation กับ Micro-Influencer

กลยุทธ์: Mistine ไม่ได้แค่จ้าง Influencer มารีวิว แต่ เชิญพวกเขามามีส่วนร่วมในการออกแบบผลิตภัณฑ์ Limited Edition ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม

ผลลัพธ์ที่โดดเด่น:

  • ผลิตภัณฑ์ Limited Edition Sold Out ภายใน 48 ชั่วโมง
  • Organic Reach เพิ่มขึ้น 3 เท่า เพราะ Influencer โพสต์ด้วยความภูมิใจ
  • ผู้ติดตามของ Influencer กลายเป็นลูกค้าซื้อซ้ำ

💡 ความลับ: การให้ Influencer เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์ ทำให้พวกเขาไม่รู้สึกว่าเป็นแค่ "คนโฆษณา" แต่เป็น "Brand Ambassador ตัวจริง"

4. GetFresh: งบ 1,800 บาท/โพสต์ ได้ ROI 406%

กลยุทธ์: ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ GetFresh จัดสรรงบ เพียง 1,800 บาทต่อ 1 โพสต์ ให้ Food Micro-Influencer ที่มีผู้ติดตาม 5,000-15,000 คน

ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าสุดๆ:

  • ROI 406% - ทุก 1 บาทที่ใช้ได้กลับมา 4.06 บาท
  • ยอด Walk-in เพิ่มขึ้น 63% หลังแคมเปญ
  • ลูกค้าใหม่ 78% บอกว่ารู้จักจาก Influencer

💡 ความลับ: GetFresh เลือก Influencer ที่ match กับ Brand Values (สุขภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ) ทำให้คำแนะนำมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ

5. Punjab Grill: Promo Code Strategy ที่ติดตามผลได้

กลยุทธ์: ร้านอาหารอินเดีย Punjab Grill ให้ Micro-Influencer แต่ละคน Promo Code เฉพาะ เพื่อวัดผลได้แม่นยำ

ผลลัพธ์ที่วัดได้ชัดเจน:

  • การจองโต๊ะเพิ่มขึ้น 590% ในช่วงแคมเปญ
  • Conversion Rate จาก Promo Code สูงถึง 12.4%
  • ลูกค้าที่มาจาก Influencer มี Average Bill สูงกว่า 28%

💡 ความลับ: การใช้ Promo Code ไม่เพียงแค่วัดผล แต่ยังสร้าง Urgencyให้ผู้ติดตามรีบตัดสินใจ และช่วยให้ร้านรู้ว่า Influencer คนไหนทำผลงานได้ดีที่สุด

(ข้อมูลจาก Starngage)[Starngage](ข้อมูลจาก Awisee)[Awisee]

เริ่มต้นทำ Micro-Influencer Marketing ยังไงดี? (6 ขั้นตอน)

จากกรณีศึกษาทั้งหมด เราสรุป 6 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างถูกทาง:

1

รู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ลึก

ก่อนจะหา Influencer ต้องเข้าใจก่อนว่า ลูกค้าของคุณคือใครพวกเขาดูคอนเทนต์ประเภทไหน ติดตามใครบ้าง และชอบ Content Style แบบไหน

คำถามที่ต้องถามตัวเอง:

  • • อายุ เพศ อาชีพ ของกลุ่มเป้าหมายหลักคือ?
  • • พวกเขาใช้ Platform ไหนมากที่สุด? (Instagram, TikTok, YouTube)
  • • พวกเขาสนใจเรื่องอะไร? (แฟชั่น, อาหาร, ฟิตเนส, ท่องเที่ยว)
2

หา Micro-Influencer ที่ "ใช่" สำหรับแบรนด์คุณ

อย่าดูแค่จำนวน Follower! ให้ความสำคัญกับ Engagement Rateและความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมากกว่า

3 เกณฑ์ในการเลือก:

  • Relevance: Content ของเขาเกี่ยวข้องกับสินค้าคุณไหม?
  • Engagement: Engagement Rate ควรอยู่ที่ 3-8% ขึ้นไป
  • Authenticity: เขาสร้างคอนเทนต์ด้วยความจริงใจหรือเปล่า?

เครื่องมือช่วยหา Influencer:

  • Starngage: Platform ไทยที่รวม Influencer และวิเคราะห์ข้อมูล
  • HypeLive: ค้นหา Influencer ที่เหมาะกับงบและเป้าหมายของคุณ
  • Hashtag Research: ค้นหาจาก #ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ
3

ตั้งงบประมาณให้เหมาะสม (และคุ้มค่า!)

ข่าวดีคือ Micro-Influencer มีราคาที่เข้าถึงได้! นี่คือราคาอ้างอิงในตลาดไทยปี 2025:

ประเภทFollowersราคา/โพสต์เหมาะกับ
Nano-Influencer1,000-10,000฿750-3,000ทดสอบตลาด, Local Marketing
Micro-Influencer10,000-100,000฿3,000-15,000แคมเปญหลัก, ROI สูง
Mid-Tier100,000-500,000฿15,000-75,000Brand Awareness กว้าง

💡 เคล็ดลับ: แทนที่จะจ้าง 1 Mid-Tier คนเดียว (฿50,000) ลองใช้งบเดียวกันจ้าง 5-10 Micro-Influencer ได้ Reach และ Engagement ที่สูงกว่า!

4

ให้อิสระในการสร้างสรรค์ (อย่าบังคับสคริปต์!)

ข้อผิดพลาดที่แบรนด์มักทำคือ "บังคับให้ Influencer พูดตามสคริปต์"ซึ่งทำให้คอนเทนต์ดูไม่ Authentic และผู้ติดตามรู้สึกได้ว่าเป็นโฆษณา

วิธีที่ดีกว่า:

  • Brief แทนสคริปต์: บอก Key Message และจุดเด่นผลิตภัณฑ์ แต่ให้เขาเล่าด้วยภาษาของตัวเอง
  • ให้เขาใช้จริง: ส่งสินค้าให้ทดลองก่อนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • เคารพ Style: ถ้าเขาเก่งเรื่อง Humor อย่าบังคับให้พูดจริงจัง

📊 จากงานวิจัยพบว่า คอนเทนต์ที่ Influencer สร้างด้วย Creative Freedom มี Engagement สูงกว่าคอนเทนต์ที่ถูกบังคับสคริปต์ถึง 67%!

5

วัดผลและ Optimize อย่างต่อเนื่อง

อย่าแค่ดู Likes กับ Comments! ใช้เครื่องมือวัดผลที่ลึกกว่า:

KPI ที่ต้องติดตาม:

  • • Engagement Rate (Like, Comment, Share)
  • • Reach และ Impressions
  • • Click-through Rate (ถ้ามี Link)
  • • Conversion Rate (ยอดขาย/ลงทะเบียน)
  • • ROI (Return on Investment)

เครื่องมือช่วยวัดผล:

  • Google Analytics: ติดตาม Traffic จาก Influencer
  • Promo Code: วัดยอดขายต่อคน
  • UTM Parameters: ติดตามแหล่งที่มา
  • Platform Insights: IG/TikTok Analytics

ข้อควรจำ: Influencer ที่มี Engagement สูงสุดไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ทำ Sales ได้ดีสุด ต้องทดลองหลายคนและเก็บข้อมูลเพื่อหาคนที่เหมาะกับแบรนด์คุณจริงๆ

6

สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว (ไม่ใช่แค่ One-Time Campaign)

Micro-Influencer ที่ดีที่สุดคือคนที่ กลายเป็น Brand Advocate ตัวจริงไม่ใช่แค่คนที่รับเงินมาโพสต์ครั้งเดียวแล้วจบ

วิธีสร้างความสัมพันธ์ยาวนาน:

  • ส่งสินค้าใหม่ให้ทดลองก่อนใคร: ทำให้รู้สึกพิเศษ
  • เชิญเข้าร่วม Exclusive Events: เปิดตัวสินค้า Workshop
  • สร้าง Ambassador Program: ให้สิทธิพิเศษระยะยาว
  • Engage กับคอนเทนต์ของเขา: Like, Comment, Repost

ตัวอย่างความสำเร็จ:

แบรนด์ไทยหลายแบรนด์เริ่มมี "Brand Squad" คือกลุ่ม Micro-Influencer 5-10 คนที่ทำงานร่วมกันเป็นประจำ พวกเขาได้ Commission จากยอดขาย + ค่าคอนเทนต์ ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประโยชน์และ motivated ในระยะยาว

(ข้อมูลจาก Stack Influence)[Stack Influence]

พร้อมเริ่มต้นแล้วหรือยัง?

จากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้เห็น สิ่งหนึ่งชัดเจนมากคือ: ยุคของการโฆษณาแบบเดิมๆ กำลังจบลงและกำลังเป็นยุคของ Authentic Connectionsที่ Micro-Influencer สร้างได้ดีกว่าใครๆ

300%

ROI สูงกว่า Traditional Ads

4.2%

Engagement Rate เฉลี่ย

76%

Trust & Purchase Intent

ไม่ว่าคุณจะมีงบ 5,000 บาท หรือ 500,000 บาท Micro-Influencer Marketing สามารถทำได้และได้ผลจริง!

เริ่มต้นง่ายๆ ด้วย 3 ขั้นตอน:

1

กำหนดกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณให้ชัด

2

หา 3-5 Micro-Influencer ที่เหมาะกับแบรนด์

3

เริ่มแคมเปญแรก ติดตามผล และ Optimize

ต้องการความช่วยเหลือในการค้นหา Influencer ที่เหมาะกับแบรนด์คุณ?

ดูแพ็กเกจและราคา

💬 สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า...

Micro-Influencer Marketing ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ทางการตลาด แต่มันคือ การสร้างชุมชนรอบตัวแบรนด์ ที่มีความจริงใจ ไว้ใจ และสนับสนุนกันและกัน เมื่อคุณปฏิบัติต่อ Influencer ด้วยความเคารพ ให้อิสระในการสร้างสรรค์ และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาจะเกินความคาดหมาย!

ขอให้ทุกแคมเปญของคุณประสบความสำเร็จ และสร้าง ROI ที่คุ้มค่าเกินคาด! 🚀

Hypelive Research Team

About the Author

Hypelive Research TeamResearch & Analysis

Our research team combines deep expertise in Thailand's creator economy, digital commerce, and AI-powered marketing. With over 15 years of collective experience working with Thai brands and creators, we analyze market trends, platform data, and real-world campaign results to provide actionable insights for businesses scaling in Southeast Asia.

ทีมวิจัยของเรารวมความเชี่ยวชาญในเศรษฐกิจผู้สร้างสรรค์ คอมเมิร์ซดิจิทัล และการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์มากกว่า 15 ปีในการทำงานกับแบรนด์และผู้สร้างสรรค์ไทย เราวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ข้อมูลแพลตฟอร์ม และผลลัพธ์แคมเปญจริงเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงสำหรับธุรกิจที่ขยายตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Creator Economy
Thai Market Analysis
Live Commerce