เช็คลิสต์: ถึงเวลาจ้าง Agency ไลฟ์หรือยัง?
"ตอนนี้ควรจ้าง Agency ไลฟ์ หรือทำเองดีนะ?" - คำถามที่หลายแบรนด์ถามตัวเองตอนที่ธุรกิจเริ่มโต หรือกำลังพิจารณาจะขยาย Live Commerce
จริงๆ แล้วไม่มีคำตอบที่ใช่สำหรับทุกคน แต่มีวิธีประเมินตัวเองได้ว่า คุณพร้อมแค่ไหน และตอนนี้เหมาะกับการจ้าง Agency หรือยัง
Blog นี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้น ผ่าน Checklist แบบตรงๆ และคำแนะนำที่เป็นกันเอง

ถึงเวลาจ้าง Agency หรือยัง? มาเช็คลิสต์กัน
Part A: สัญญาณว่าคุณพร้อมจ้าง Agency แล้ว
เช็คดูว่าธุรกิจคุณมีสัญญาณเหล่านี้กี่ข้อ (ยิ่งเยอะยิ่งพร้อม):
✅ ทีมทำไลฟ์อยู่แล้ว แต่ยอดขายไม่เติบโต
คุณมีทีมทำ Live อยู่แล้ว แต่รู้สึกว่า Performance ค้างที่เดิม ขาด Strategy, ขาด Optimization, หรือขาดมุมมองใหม่ๆ ที่จะทำให้ Conversion สูงขึ้น
✅ ไม่มีเวลาจัดการเทคนิค/Production Quality
คุณอยากโฟกัสที่ธุรกิจหลัก ไม่อยากปวดหัวกับเรื่องกล้อง ไฟ เสียง Script หรือการจัดการ Platform หลายๆ อัน - แค่อยากได้ผลลัพธ์ที่ดี
✅ ต้องการขยายไปหลาย Platform พร้อมกัน
คุณอยากทำ TikTok, Facebook, Shopee, Lazada พร้อมกัน แต่ทีมไม่พอทำให้ครบ หรือไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะแต่ละ Platform[1][trans-cosmos Thailand]
✅ มีงบพร้อม แต่ Execute ไม่ทัน
คุณมี Budget สำหรับ Marketing แต่ไม่รู้จะทำยังไง หรือทำเองไม่ทัน อยากได้ทีมที่มี Expertise มาช่วย Execute แทน
✅ ต้องการ Data-Driven Decision Making
คุณอยากเห็น Report ที่ชัดเจน วัดผล KPI ได้จริง และได้ Insight ที่ช่วยปรับ Strategy - ไม่ใช่แค่ทำไปเรื่อยๆ[2][trans-cosmos Thailand]
✅ ต้องการ MC/Host มืออาชีพทันที
คุณไม่อยากใช้เวลาหาคน Train คน หรือทดลองผิดทดลองถูก - อยากได้ผู้ดำเนินรายการที่มีประสบการณ์มาช่วยขายให้เลย
✅ ต้องการโตเร็ว ไม่อยากใช้เวลาสร้างทีม In-house
การสร้างทีมใหม่ใช้เวลา 6-12 เดือน ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ไว การจ้าง Agency ที่มีทีมพร้อมอาจเป็นทางลัดที่คุ้มค่ากว่า[3][Unity Connect]
คะแนน Part A: ____ / 7 ข้อ
Part B: สัญญาณว่าควรรออีกนิด
ถ้าคุณเจอสัญญาณเหล่านี้เยอะ อาจยังไม่ใช่ Timing ที่เหมาะ:
❌ ยังไม่เคยลองทำ Live Commerce เลย
ถ้าคุณยังไม่เคยทำไลฟ์สักครั้ง แนะนำให้ลอง DIY ก่อน 2-3 ครั้ง เพื่อทำความเข้าใจ Process และรู้ว่าคุณต้องการอะไรจาก Agency จริงๆ
❌ งบประมาณต่ำกว่า 30,000-50,000 บาท/เดือน
Agency คุณภาพดีมักเริ่มต้นที่ 30,000-50,000 บาท/เดือนขึ้นไป ถ้างบน้อยกว่านี้ อาจคุ้มกว่าที่จะทำเองหรือใช้ Freelancer ก่อน
❌ ไม่แน่ใจว่าสินค้าคุณเหมาะกับ Live หรือเปล่า
ถ้ายังไม่รู้ว่า Product-Market Fit สำหรับ Live Commerce เป็นยังไง ควรทดลองเองก่อน เพื่อหา Format และ Message ที่ Work
❌ ทีม In-house ยังเรียนรู้และปรับปรุงได้อยู่
ถ้าทีมคุณยังอยู่ในช่วง Learning Curve และมี Potential ที่จะพัฒนาต่อ อาจคุ้มกว่าที่จะ Invest ในการ Train ทีมปัจจุบันก่อน
❌ ต้องการ Control ทุกอย่าง 100% ด้วยตัวเอง
การจ้าง Agency หมายถึงการ Delegate บางอย่าง ถ้าคุณยัง Micromanage ทุกเรื่อง หรือไม่พร้อมให้ทีมภายนอกช่วยตัดสินใจ ผลลัพธ์จะไม่คุ้มค่า[4][Winbound]
❌ ต้องการสร้าง Internal Expertise ระยะยาว
ถ้าเป้าหมายคือสร้าง Know-how ภายในบริษัท การทำเองหรือ Hybrid Model (จ้าง Agency แบบ Consulting) จะเหมาะกว่าการ Outsource ทั้งหมด
❌ ธุรกิจยังไม่มั่นคงพอที่จะ Commit ระยะยาว
Agency ส่วนใหญ่ทำงานได้ดีเมื่อมี Continuity (อย่างน้อย 3-6 เดือน) ถ้าคุณยังไม่พร้อม Commit แบบนั้น ควรเริ่มจาก Project-based ก่อน
คะแนน Part B: ____ / 7 ข้อ
ประเมินผลคะแนน: คุณควรทำยังไง?
Scenario 1: Ready to Partner 🎯
Part A: 4-7 ข้อ + Part B: <3 ข้อ
คำแนะนำ: คุณพร้อมจ้าง Agency แล้ว! เริ่มจากการ Shortlist 2-3 Agency และนัดคุยเพื่อดูว่า Chemistry ใช่กันไหม
Next Steps:
- ✓ เตรียม Brief ธุรกิจและเป้าหมายให้ชัดเจน
- ✓ กำหนด Budget และ Timeline ที่สมจริง
- ✓ ดูผลงานและ Case Study ของ Agency
- ✓ ถามคำถามในหัวข้อถัดไป (ด้านล่าง)
Scenario 2: Try Hybrid Model 🤝
Part A: 2-3 ข้อ + Part B: 2-4 ข้อ
คำแนะนำ: คุณอยู่ในจุดกึ่งกลาง ควรเริ่มจาก Hybrid Model - ทำบางส่วนเอง บางส่วนจ้าง Agency
ตัวเลือก Hybrid:
- ✓ Consulting Only: Agency ช่วย Strategy และ Training ทีม
- ✓ Production Only: คุณดูแล Strategy, Agency ดูแล Execution
- ✓ Project-Based: จ้างทำ Campaign สำคัญ ไม่ Retainer
- ✓ Platform-Specific: ทำเอง 1 Platform, Agency ดูแลอีก 2-3 Platform
Scenario 3: Build Foundation First 🌱
Part B: 4-7 ข้อ
คำแนะนำ: ยังไม่ใช่ Timing ที่เหมาะ ควรสร้างพื้นฐานให้แข็งแรงก่อน แล้วค่อยพิจารณาจ้าง Agency ทีหลัง
สิ่งที่ควรทำก่อน:
- ✓ ทดลองทำ Live Commerce เอง 5-10 ครั้งก่อน
- ✓ เก็บข้อมูล Performance เบื้องต้น (Viewers, Engagement, Sales)
- ✓ เข้าใจ Customer ของคุณว่าชอบ Format แบบไหน
- ✓ สร้าง Process และ Checklist พื้นฐานให้ทีม
- ✓ เมื่อ Ready แล้ว กลับมาดูใหม่ว่าคะแนนเปลี่ยนไหม
6 คำถามที่ควรถามก่อนจ้าง Agency
ถ้าคุณอยู่ใน Scenario 1 หรือ 2 และกำลังจะนัดคุย Agency นี่คือคำถามที่ควรถามเพื่อประเมินว่าเหมาะกับคุณไหม:
1. มีประสบการณ์กับธุรกิจแบบเราไหม?
ทำไมต้องถาม: Agency ที่เคยทำ Industry เดียวกันจะเข้าใจ Pain Point และ Best Practice เฉพาะของคุณเร็วกว่า
💡 ขอดู Case Study หรือ Portfolio ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการของคุณ
2. ทีมที่จะดูแลเรามีใครบ้าง? พบได้บ่อยแค่ไหน?
ทำไมต้องถาม: ต้องแน่ใจว่าได้ทีมจริง ไม่ใช่แค่ Sales ที่มาขาย แล้วหายไปหลังเซ็นสัญญา
💡 ถามว่าใครเป็น Account Manager, ใครเป็น MC/Host, มีทีม Production กี่คน
3. วัดผลยังไง? Report แบบไหน? บ่อยแค่ไหน?
ทำไมต้องถาม: ถ้า Agency ไม่มี KPI ชัดเจนหรือไม่ Report เป็นระบบ คุณจะไม่รู้ว่าเงินที่จ่ายไปคุ้มไหม
💡 ขอดู Sample Report และถามว่า Track KPI อะไรบ้าง (Viewers, Engagement, GMV, ROAS)
4. มี Minimum Contract หรือ Lock Period ไหม?
ทำไมต้องถาม: บาง Agency ผูก 6-12 เดือน ถ้าผลงานไม่ดีคุณก็หนีไม่ได้ ควรหา Agency ที่ยืดหยุ่นกว่า (อย่างน้อยครั้งแรก)
💡 ถามว่าถ้าไม่พอใจ สามารถยกเลิกได้ง่ายแค่ไหน และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มไหม
5. ทำงานร่วมกับทีมเรายังไง? ใคร Own อะไร?
ทำไมต้องถาม: ต้องรู้ว่า Agency ช่วยตรงไหน คุณต้องทำอะไรเอง และจุดประสานงานชัดเจนไหม เพื่อไม่ให้เกิด Confusion
💡 ขอดู Process Flow หรือ RACI Chart (ใครรับผิดชอบอะไร)
6. ราคาครอบคลุมอะไรบ้าง? มีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นไหม?
ทำไมต้องถาม: บาง Agency Quote ราคาต่ำ แต่มีค่า Add-on เยอะมาก (เช่น MC เพิ่ม, Revision เพิ่ม, Report เพิ่ม) - ต้องถามให้ครบทุกรายการ
💡 ขอ Breakdown ทุกรายการและถามว่าอะไรเป็น Base Fee อะไรเป็น Add-on
ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง...
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความซื่อสัตย์กับตัวเอง - ถามตัวเองจริงๆ ว่าทีมคุณพร้อมหรือยัง งบคุณเหมาะสมไหม และเป้าหมายคุณชัดเจนแค่ไหน
การจ้าง Agency ไม่ใช่คำตอบเดียว แต่ก็ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว- ถ้า Timing ถูกและเลือก Partner ถูกคน มันสามารถช่วยให้ธุรกิจคุณ Scale ได้เร็วกว่ามาก
แต่ถ้ายังไม่พร้อม ก็ไม่ต้องรีบ - สร้างพื้นฐานให้แข็งแรงก่อน เมื่อถึงเวลาที่ใช่ คุณจะรู้เอง
หรือถ้าอยากคุยปรึกษาก่อน ยินดีให้คำแนะนำฟรี - ไม่มีเซลล์แน่นอน
References
- [1][trans-cosmos Thailand] trans-cosmos Thailand - Live Commerce: A Game-Changing Strategy
- [2][trans-cosmos Thailand] trans-cosmos Thailand - 5 KPIs Every Marketer Must Know
- [3][Unity Connect] Unity Connect - Outsourcing in E-commerce
- [4][Winbound] Winbound - Outsourcing Marketing Activities
About the Author
Sarah Chen • Founder & CEO
Sarah founded Hypelive after 10 years leading digital commerce initiatives across Southeast Asia. She specializes in helping brands scale through live commerce, influencer partnerships, and AI-powered marketing automation. Her expertise spans TikTok Shop, Shopee Live, and cross-border e-commerce strategies.
Sarah ก่อตั้ง Hypelive หลังจากมีประสบการณ์ 10 ปีในการนำธุรกิจดิจิทัลคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เธอเชี่ยวชาญในการช่วยแบรนด์ขยายธุรกิจผ่าน live commerce, การทำงานกับอินฟลูเอนเซอร์ และระบบการตลาดอัตโนมัติด้วย AI